Categories
บ้านและสวน

เมล็ดพันธุ์ ฝ้าย ปุยฝ้ายสีขาว

เมล็ดพันธุ์ ฝ้าย ปุยฝ้ายสีขาว ซองละ29 บาท มีประมาณ 15 เม็ด ไม่ตัดต่อพันธุกรรมเก็บเมล็ดปลูกต่อได้ จากบ้านสวน

รายละเอียดสินค้า เมล็ดพันธุ์ ฝ้าย ปุยฝ้ายสีขาว ซองละ29 บาท มีประมาณ 15 เม็ด ไม่ตัดต่อพันธุกรรมเก็บเมล็ดปลูกต่อได้ จากบ้านสวน

  • เมล็ดพันธุ์ ฝ้าย ปุยฝ้ายสีขาว ซองละ29 บาทมีประมาณ 15 เม็ด ไม่ตัดต่อพันธุกรรมเก็บเมล็ดปลูกต่อได้ จากบ้านสวนปุยฝ้ายหรือเส้นใยจากเมล็ด สามารถใช้ทอเป็นผ้าฝ้าย เส้นด้าย สำลี ผสมในกระดาษ และกระดาษพิมพ์ ส่วนขนปุยสั้น ๆ ที่ติดอยู่ที่เมล็ดจะนำมาใช้ทำพรม โดยใช้พื้นรองพรมเป็นเส้นใยแก้วลักษณะของต้นฝ้ายต้นฝ้าย มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและเอเชียตอนใต้ จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง มีขนละเอียดขึ้นหนาแน่นใบฝ้าย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กว้าง ขอบใบเว้าลึกเป็น 3-5 แฉก ใบมีขนาดกว้างและยาวประมาณ 8-12 เซนติเมตรดอกฝ้าย ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบและที่ปลายกิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองอ่อน แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแกมชมพูหลังจากดอกบานเต็มที่ผลฝ้าย ผลเป็นผลแห้ง แตกออกได้ตามพูเป็น 3 ฝา ภายในมีเมล็ดมีขนยาวสีขาวห่อหุ้มอยู่เมล็ดฝ้ายปุยฝ้าย หรือ เส้นใยฝ้าย คือ เซลล์ผิวของเปลือกเมล็ดซึ่งมีรูปร่างยาวคล้ายเส้นผม การแยกเส้นใยออกจากเมล็ดฝ้าย จะเรียกว่า “การหีบฝ้าย” เส้นใยฝ้ายที่ได้นี้สามารถนำไปใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ การเก็บฝ้ายในบ้านเรามักเก็บด้วยมือ โดยเลือกจากผลฝ้ายที่แตกแล้ว ดึงเส้นใยออกจากสมอ ส่งไปโรงงานหีบฝ้ายเพื่อแยกเมล็ดออก หลังจากนั้นจะนำเส้นใยไปทำสำลี ปั่นเป็นเส้นด้าย หรืออัดเป็นแท่ง ส่วนเมล็ดฝ้ายที่แยกเอาเส้นใยออกไปแล้วจะนำไปสกัดเอาน้ำมันสรรพคุณของฝ้ายตำรับยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้ใบฝ้าย ผสมกับใบมะม่วง ใบมะนาวป่า ใบขมิ้น ใบไพล และใบตะไคร้ นำมาต้มเคี่ยว ดื่มกินเป็นยารักษานิ่ว (ใบ)เมล็ดฝ้ายใช้ผสมกับแก่นข่อย แก่นฝาง หัวตะไคร้ เลือดแรด นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยารักษาอาการประจำเดือนผิดปกติ ข้นคล้ำ (เมล็ด)จากหนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ได้ระบุว่าฝ้ายชนิด Gossypium hirsutum L. ที่กล่าวถึงในบทความนี้ มีสรรพคุณใกล้เคียงกับฝ้ายขาว (Gossypium herbaceum L.) ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนกันได้ โปรดอ่านสรรพคุณของฝ้ายขาวเพิ่มเติมในบทความ “ฝ้ายขาว” ที่ระบุไว้ในข้อมูลทางเภสัชวิทยาของฝ้ายเนื้อในเมล็ดพบสาร gossypol ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างตัวของอสุจิ ลดระดับไขมันในเลือด กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ทั้งในคนและในสัตว์ทดลองน้ำต้มจากเปลือกรากมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของมดลูกในหลอดทดลองจากการทดลองในคน โดยการกินน้ำมันที่บีบได้จากเมล็ด พบว่าให้ผลลดการสร้างตัวของอสุจิ ทำให้เป็นหมันชั่วคราว และจะกลับเข้าสู่สภาพเดิมเมื่อหยุดกินประโยชน์ของฝ้ายปุยฝ้ายหรือเส้นใยจากเมล็ด สามารถใช้ทอเป็นผ้าฝ้าย เส้นด้าย สำลี ผสมในกระดาษ และกระดาษพิมพ์ ส่วนขนปุยสั้น ๆ ที่ติดอยู่ที่เมล็ดจะนำมาใช้ทำพรม โดยใช้พื้นรองพรมเป็นเส้นใยปอแก้ว (ฝ้าย 10 กิโลกรัม จะให้เส้นใยประมาณ 3.5 กิโลกรัม)เมล็ดใช้สกัดเอาน้ำมันเรียกว่า “น้ำมันเมล็ดฝ้าย” (ฝ้าย 10 กิโลกรัม จะให้น้ำมันประมาณ 1 กิโลกรัม)

เมล็ดพันธุ์ ฝ้าย ปุยฝ้ายสีขาว ซองละ29 บาท มีประมาณ 15 เม็ดไม่ตัดต่อพันธุกรรมเก็บเมล็ดปลูกต่อได้ จากบ้านสวนบาทจากบ้านสวน

ปุยฝ้ายหรือเส้นใยจากเมล็ดสามารถใช้ทอเป็นผ้าฝ้าย เส้นด้าย สำลี ผสมในกระดาษ และกระดาษพิมพ์ ส่วนขนปุยสั้น ๆที่ติดอยู่ที่เมล็ดจะนำมาใช้ทำพรม โดยใช้พื้นรองพรมเป็นเส้นใยแก้ว

ลักษณะของต้นฝ้าย

ต้นฝ้าย มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและเอเชียตอนใต้จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง มีขนละเอียดขึ้นหนาแน่น

ใบฝ้าย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กว้างขอบใบเว้าลึกเป็น 3-5 แฉก ใบมีขนาดกว้างและยาวประมาณ 8-12 เซนติเมตร

ดอกฝ้าย ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบและที่ปลายกิ่งดอกเป็นสีเหลืองอ่อน แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแกมชมพูหลังจากดอกบานเต็มที่

ผลฝ้าย ผลเป็นผลแห้ง แตกออกได้ตามพูเป็น 3 ฝา ภายในมีเมล็ดมีขนยาวสีขาวห่อหุ้มอยู่

เมล็ดฝ้ายปุยฝ้าย หรือ เส้นใยฝ้าย คือเซลล์ผิวของเปลือกเมล็ดซึ่งมีรูปร่างยาวคล้ายเส้นผม การแยกเส้นใยออกจากเมล็ดฝ้ายจะเรียกว่า “การหีบฝ้าย” เส้นใยฝ้ายที่ได้นี้สามารถนำไปใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆได้หลายรูปแบบ การเก็บฝ้ายในบ้านเรามักเก็บด้วยมือ โดยเลือกจากผลฝ้ายที่แตกแล้วดึงเส้นใยออกจากสมอ ส่งไปโรงงานหีบฝ้ายเพื่อแยกเมล็ดออก หลังจากนั้นจะนำเส้นใยไปทำสำลีปั่นเป็นเส้นด้าย หรืออัดเป็นแท่งส่วนเมล็ดฝ้ายที่แยกเอาเส้นใยออกไปแล้วจะนำไปสกัดเอาน้ำมัน

สรรพคุณของฝ้าย

ตำรับยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้ใบฝ้าย ผสมกับใบมะม่วง ใบมะนาวป่าใบขมิ้น ใบไพล และใบตะไคร้ นำมาต้มเคี่ยว ดื่มกินเป็นยารักษานิ่ว (ใบ)

เมล็ดฝ้ายใช้ผสมกับแก่นข่อย แก่นฝาง หัวตะไคร้ เลือดแรดนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยารักษาอาการประจำเดือนผิดปกติ ข้นคล้ำ (เมล็ด)

จากหนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ได้ระบุว่าฝ้ายชนิด Gossypiumhirsutum L. ที่กล่าวถึงในบทความนี้มีสรรพคุณใกล้เคียงกับฝ้ายขาว (Gossypium herbaceum L.) ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนกันได้โปรดอ่านสรรพคุณของฝ้ายขาวเพิ่มเติมในบทความ “ฝ้ายขาว” ที่ระบุไว้ใน

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของฝ้าย

เนื้อในเมล็ดพบสาร gossypol ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างตัวของอสุจิ ลดระดับไขมันในเลือดกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ทั้งในคนและในสัตว์ทดลอง

น้ำต้มจากเปลือกรากมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของมดลูกในหลอดทดลอง

จากการทดลองในคน โดยการกินน้ำมันที่บีบได้จากเมล็ดพบว่าให้ผลลดการสร้างตัวของอสุจิ ทำให้เป็นหมันชั่วคราวและจะกลับเข้าสู่สภาพเดิมเมื่อหยุดกิน

ประโยชน์ของฝ้าย

ปุยฝ้ายหรือเส้นใยจากเมล็ด สามารถใช้ทอเป็นผ้าฝ้าย เส้นด้าย สำลีผสมในกระดาษ และกระดาษพิมพ์ ส่วนขนปุยสั้น ๆ ที่ติดอยู่ที่เมล็ดจะนำมาใช้ทำพรมโดยใช้พื้นรองพรมเป็นเส้นใยปอแก้ว (ฝ้าย 10 กิโลกรัม จะให้เส้นใยประมาณ 3.5 กิโลกรัม)

เมล็ดใช้สกัดเอาน้ำมันเรียกว่า “น้ำมันเมล็ดฝ้าย” (ฝ้าย 10 กิโลกรัม จะให้น้ำมันประมาณ 1 กิโลกรัม)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *